4 ฉนวนกันความร้อนแบบแผ่นยอดฮิต ติดตั้งบริเวณโถงหลังคา
เคล็ดลับน่ารู้

ฉนวนกันความร้อนมีกี่ประเภท เลือกอย่างไรให้เหมาะกับบ้านคุณ

173.1K

4 กันยายน 2567

4 ฉนวนกันความร้อน

การติดตั้ง ฉนวนกันความร้อนบริเวณโถงหลังคา เป็นหนึ่งในวิธีป้องกันความร้อนที่จะส่งผ่านเข้ามาภายในบ้าน ซึ่งฉนวนที่ได้รับความนิยมจะเป็นฉนวนแบบแผ่น ในปัจจุบันมีให้เลือกหลากหลาย เราจึงควรพิจารณาถึงคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ ความสามารถในการต้านทานความร้อน รวมถึงราคาเพื่อประกอบการตัดสินใจ วันนี้เอสซีจี ได้นำรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับฉนวนกันความร้อนมาอธิบายให้ทุกคนได้เข้าใจกันว่า ตามท้องตลาดมีกี่ประเภทที่คนส่วนใหญ่นิยมเลือกใช้ พร้อมคุณสมบัติการใช้งานที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ติดตามสาระสำคัญทั้งหมดได้ในบทความนี้

หน้าที่ของฉนวนกันความร้อน

ฉนวนกันความร้อน มีหน้าที่ป้องกันความร้อนที่จะส่งผ่านเข้ามาภายในบ้าน รวมถึงช่วยสะท้อนรังสีความร้อนออกไปด้วย การติดตั้งฉนวนบริเวณโถงหลังคาจะช่วยลดความร้อนได้มากกว่าบริเวณอื่นในบ้าน เพราะกว่า 70% ของความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านมาจากทางหลังคานี่เอง ในปัจจุบันมีฉนวนให้เลือกค่อนข้างมาก แต่สำหรับบ้านพักอาศัยมักจะนิยมใช้ฉนวนแบบแผ่น (ฉนวนกันความร้อน สำเร็จรูป มีลักษณะเป็นแผ่นหรือเป็นม้วน) เพราะสามารถรื้อเปลี่ยนใหม่ได้ง่าย หน้างานสะอาด

ประเภทของฉนวนกันความร้อนที่นิยมใช้

โดยทั่วไปฉนวนกันความร้อนจะมี 4 ประเภทให้เลือกใช้ คือ อะลูมิเนียมฟอยล์ โพลีเอธิลีนโฟม แอร์บับเบิ้ล และใยแก้ว การเลือกใช้งานควรพิจารณาถึงคุณสมบัติ ค่ากันร้อน ลักษณะการติดตั้ง รวมถึงข้อควรระวังต่างๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ โดยทั้งหมดมีรายละเอียดดังนี้

1. อะลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium Foil)


        มีลักษณะเป็นแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ 2 หน้าบางๆ ทำหน้าที่สะท้อนความร้อน โดยมีประสิทธิภาพในการสะท้อนรังสีความร้อนได้สูงสุด 97% สามารถเลือกได้ว่าจะติดตั้งบนแปหรือใต้แปบริเวณโครงหลังคา ซึ่งเฉพาะตัวมันเองแทบจะไม่มีค่าความสามารถในการต้านทานความร้อน หรือ ค่า R (มีค่า R ประมาณ 0.000001 m2.K/W หรือ 0.0000057 hr.ft2.F/Btu) เนื่องจากไม่มีความหนาเพียงพอจึงทำหน้าที่สะท้อนความร้อนเพียงอย่างเดียว แต่ในการติดตั้งจะต้องเว้นช่องว่างอากาศซึ่งถือว่าเป็นฉนวนกันความร้อนที่มีค่ากันร้อนที่นำมาคำนวณได้ โดยเมื่อยิ่งเว้นช่องว่างอากาศระหว่างแผ่นสะท้อนความร้อนกับวัสดุมุงหลังคามากเท่าใด ก็จะมีค่า R มากขึ้น มีข้อดีคือหาซื้อได้ง่าย ทนต่อแรงดึง ไม่ฉีกขาดง่าย แต่มีข้อควรคำนึงคือควรใช้ฉนวนประเภทอื่นร่วมด้วย เนื่องจากตัวอะลูมิเนียมฟอยล์เองจะช่วยสะท้อนความร้อนแต่ไม่ได้ป้องกันความร้อนที่จะส่งผ่านเข้ามาภายในบ้าน มีราคาประมาณ 80 บาทต่อตารางเมตร 

อะลูมิเนียมฟอยล์ หรือแผ่นสะท้อนความร้อน
อะลูมิเนียมฟอยล์ หรือแผ่นสะท้อนความร้อน 
การติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อน สามารถติดตั้งได้ทั้งบนแปหรือใต้แปบริเวณโครงหลังคา
การติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อน สามารถติดตั้งได้ทั้งบนแปหรือใต้แปบริเวณโครงหลังคา

2. โพลีเอธิลีนโฟม (Polyethylene Foam-PE)


        เรียกอย่างย่อว่า ฉนวนโฟม PE มีลักษณะเป็นแผ่นโฟมที่มีอะลูมิเนียมฟอยล์ 1 หรือ 2 ด้าน ประกบแต่ละชั้นให้ติดกันด้วยกาว โฟม PE ทำหน้าที่ป้องกันความร้อน ส่วนอะลูมิเนียมฟอยล์ทำหน้าที่สะท้อนความร้อน ฉนวนโฟม PE จึงสามารถป้องกันความร้อนพร้อมกับช่วยสะท้อนความร้อนในตัว ในท้องตลาดมีความหนาให้เลือกเช่น 3, 4, 5 และ 10 มม. ที่นิยมใช้เป็นฉนวนกันความร้อน คือความหนาแบบ 5 มม. ซึ่งความหนาแบบ 5 มม. นี้ ตัวมันเองมีความสามารถในการต้านทานความร้อน หรือค่า R ประมาณ 0.208 m2.K/W (1.181 hr.ft2.F/Btu) การติดตั้งจะติดตั้งแบบวางบนแป ใต้แป ใต้จันทัน (ขึงลวด/ตะแกรงลวด) หรือปูบนฝ้าเพดานก็ได้ มีข้อควรคำนึงคือ ตัวฟอยล์ที่ปิดผิว เมื่อฉีกขาดออกจนเห็นเนื้อ PE ข้างใน หากเกิดประกายไฟไปโดนจะทำให้เกิดการลามไฟได้ เนื่องจากฉนวน PE ทำมาจากพลาสติก Polyethylene Foam (แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตแต่ละราย) ราคาประมาณ 45 บาทต่อตารางเมตร (สำหรับความหนา 5 มม.) 

โพลีเอธิลีนโฟม
โพลีเอธิลีนโฟม

3. แอร์บับเบิ้ล (Air Bubble เรียกอีกอย่างว่า Bubble Foil)


        เป็นฉนวนที่มีลักษณะคล้ายแผ่นพลาสติกกันกระแทกที่มีมวลอากาศอยู่ตรงกลาง หากแต่มีแผ่นอะลูมิเนียมฟอยล์ประกบทั้ง 2 ด้าน มวลอากาศจะทำหน้าที่ป้องกันความร้อน ส่วนอะลูมิเนียมฟอยล์ทำหน้าที่สะท้อนความร้อน มีความหนาประมาณ 4-4.5 มม. ข้อควรคำนึงคือ ตัวฟอยล์ที่ปิดผิว เมื่อฉีกขาดออกจนเห็นเนื้อข้างใน หากเกิดประกายไฟไปโดนฉนวนด้านในจะทำให้เกิดการลามไฟได้ เนื่องจากฉนวน Bubble Foil ทำมาจากพลาสติกชนิดหนึ่ง (แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ผลิตแต่ละราย) สามารถติดตั้งได้หลายตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งบริเวณโครงหลังคาแบบวางบนแป ใต้แป ใต้จันทัน (ขึงลวด/ตะแกรงลวด) หรือการปูบนฝ้าเพดาน ตัวมันเองมีความสามารถในการต้านทานความร้อน หรือค่า R (Resistivity) ประมาณ 0.101 m2.K/W (0.573 hr.ft2.F/Btu) มีราคาประมาณ 70 บาทต่อตารางเมตร 

แอร์บับเบิ้ล
แอร์บับเบิ้ล

4. ใยแก้ว (Fiberglass)


        ฉนวนใยแก้วจะห่อหุ้มด้วยอะลูมิเนียมฟอยล์ โดยใยแก้วทำหน้าที่ป้องกันความร้อนและอะลูมิเนียมฟอยล์ทำหน้าที่สะท้อนความร้อน ฉนวนใยแก้วมีหลายรูปแบบ สำหรับบ้านพักอาศัยจะมีทั้งแบบที่เหมาะกับการติดตั้งบนแปบริเวณโครงหลังคา และแบบปูบนฝ้าเพดานซึ่งสามารถติดตั้งได้ง่าย ไม่ลามไฟ มีข้อควรคำนึงคือ ต้องเตรียมพื้นที่สำหรับการกองเก็บพอสมควร (เป็นม้วนหนากว่าฉนวนแบบแผ่นประเภทอื่น) 
        สำหรับฉนวนใยแก้วกันความร้อนของ เอสซีจี จะมีหลายรุ่นให้เลือกใช้เช่นกัน โดยรุ่นที่เหมาะกับบ้านพักอาศัยจะเป็นฉนวนแบบปูบนฝ้าเพดานรุ่น STAYCOOL หนา 75 มม. ซึ่งมีค่า R ประมาณ 1.786 m2.K/W (10.139 hr.ft2.F/Btu) ราคาประมาณ 146 บาทต่อตารางเมตร และฉนวนรุ่น STAYCOOL หนา 150 มม. ซึ่งมีค่า R ประมาณ 3.571 m2.K/W (20.273 hr.ft2.F/Btu) ราคาประมาณ 188 บาทต่อตารางเมตร ส่วนบ้านที่เลือกใช้กระเบื้องหลังคาของ เอสซีจี บางรุ่น สามารถเลือกใช้ รุ่นอัลตราคูล ที่ติดตั้งบนแปก็ได้เช่นกัน ซึ่งมีค่า R ประมาณ 1.786 m2.K/W(10.139 hr.ft2.F/Btu) มีราคาประมาณ 200 บาทต่อตารางเมตร 

ฉนวนกันความร้อนแบบปูบนฝ้าเพดานรุ่น STAYCOOL
ฉนวนกันความร้อนแบบปูบนฝ้าเพดานรุ่น STAY COOL
ฉนวนกันความร้อนสำหรับติดตั้งบนแป บริเวณโครงหลังคา รุ่นอัลตราคูล
ฉนวนกันความร้อนสำหรับติดตั้งบนแป บริเวณโครงหลังคา รุ่นอัลตราคูล

ตารางเปรียบเทียบฉนวนกันความร้อนแต่ละแบบ

อย่างที่ทุกคนเห็นกันไปแล้วว่าฉนวนกันความร้อนทั้ง 4 แบบมีความแตกต่างทั้งในแง่ของการใช้งาน และการนำพาความร้อนอย่างสิ้นเชิง เพื่อให้เห็นภาพง่าย ๆ เอสซีจีได้สรุปค่าต่างมาเปรียบเทียบให้เข้าใจ ดังนี้
วัสดุความสามารถในการ
ต้านทานความร้อน ค่า R
(m2 K/W) / (hr.ft2.F/Btu)
ราคาต่อตารางเมตร
อะลูมิเนียมฟอยล์0.000001 (0.0000057)80 บาท
โพลีเอธิลีนโฟม0.208 (1.181)45 บาท
แอร์บับเบิ้ล/
บับเบิ้ลฟอยล์
0.101 (0.573)70 บาท
ฉนวนใยแก้วSTAY COOL
75 มม.
1.786 (10.139)146 บาท
STAY COOL
150 มม.
3.571 (20.273)188 บาท
อัตราคูล1.786 (10.139)200 บาท

สรุปเกี่ยวกับประเภทของฉนวนกันความร้อน

หลังจากที่ได้รู้จักฉนวนกันความร้อนแบบแผ่นแต่ละประเภทแล้ว จะเห็นได้ว่าฉนวนแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและราคาแตกต่างกันไป อย่างไรก็ดีอายุการใช้งานของฉนวนแต่ละประเภทอาจไม่แตกต่างกันมากนัก การตัดสินใจเลือกใช้อาจพิจารณาจากความคุ้มค่าเป็นสำคัญ ซึ่งสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากบทความ “Q&A : เลือกฉนวนกันความร้อนอย่างไรให้คุ้มค่า”

นอกจากการเลือกใช้ฉนวนเพื่อติดตั้งบริเวณโถงหลังคาซึ่งความร้อนจะผ่านเข้ามาทางนี้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ยังมีผนังบ้านซึ่งเป็นบริเวณหนึ่งที่ความร้อนจะสามารถผ่านเข้ามาได้เช่นกัน ซึ่งเราอาจเลือกวิธีการติดตั้ง ฉนวนกันความร้อนบริเวณผนัง หรือใช้วิธีลดความร้อนด้วยการทำระแนงแผงบังแดดก็ตาม สิ่งสำคัญอย่าลืมเรื่องการระบายถ่ายเทอากาศภายในบ้านที่ดีด้วย ชมสินค้าจริงพร้อมคำแนะนำการใช้งานฉนวนกันความร้อนได้ที่ SCG Experience และ SCG HOME Solution สาขาใกล้บ้าน หรือ โทร. 02-586-2222 

ขอขอบคุณแหล่งที่มาจาก : บริษัท สยามไฟเบอร์กลาส จำกัด