17.7K
13 พฤษภาคม 2567
รีวิวโดย: easternsand@hotmail.com
"มันเริ่มต้นจากความฝันเล็กๆในวัยเด็กที่คิดว่าถ้าโตขึ้นก็อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง บ้านดีๆ ตกแต่งสวยๆมีสไตล์ แบบที่เห็นตามหนังสือแต่งบ้านที่ชอบเปิดอ่าน"
แล้วในที่สุดวันนึง เมื่อจังหวะ ความพร้อม และเวลามาถึง ทั้งเรื่องวัย ทั้งหน้าที่การงาน ทั้งเงินเก็บ ประกอบกับงานที่ทำ ต้องมีการใช้พื้นที่เยอะ บ้านเดิมเริ่มจะมีพื้นที่ไม่พอ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการมองหาบ้านซักหลังเพื่อเติมเต็มความต้องการ
ในช่วงแรกๆก็พยายามไปมองหา หรือทดลองดูบ้านใหม่มือ1 เพราะคิดว่ายังไงซะของใหม่ก็น่าจะดี แต่เอาเข้าจริงพอดูในรายละเอียดหลายๆอย่างกลับรู้สึกว่า นอกจากราคาจะไม่สมเหตุสมผล(สำหรับตัวเอง)แล้ว ของที่มีอยู่ในบ้าน เช่น กระเบื้อง ผนัง สุขภัณฑ์ ฯลฯ ก็ไม่ใช่สิ่งที่เราชอบทั้งหมด แต่จะรื้อทำใหม่ก็เสียดาย(เพราะเป็นของใหม่อยู่) จึงเปลี่ยนความคิด และเริ่มมองหาบ้านเก่า เพื่อที่จะนำมารีโนเวท เพราะเมื่อมาลองทบทวนดูแล้ว ราคาน่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า แล้วก็ยังสามารถปรับเปลี่ยน ปรับปรุง ซ่อมแซม สร้างสรรค์ ทุกๆจุดได้ตามใจเรา สามารถควบคุมรูปแบบของบ้านตามความต้องการ และการใช้งานของเราได้ทุกส่วน
ซึ่งโจทย์สำคัญก็คือ ทำเลที่ตั้ง ต้องอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ไม่ไกลจากบ้านเดิมมากนัก(แถวบางขุนนนท์) เพราะว่ามีความคุ้นเคยกับสถานที่ต่างๆ สะดวกในการทำงาน ถนนหนทางก็รถน้อยไม่วุ่นวาย สภาพโดยรอบก็ยังคงมีพื้นที่โล่ง และสวนอยู่บ้างไม่แออัดเหมือนโซนในเมือง และแล้วหลังจากขี่มอเตอร์ไซด์ตระเวนหาตามตรอกซอกซอย เป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ก็ได้มาเจอกับบ้านหลังนึง ที่ถูกติดประกาศว่าโดนยึดอยู่ คาดว่าไม่มีคนอยู่มาไม่ต่ำกว่า 5 ปี วินาทีแรกที่เห็น ภาพของบ้านที่ตกแต่งเสร็จเรียบร้อยก็อยู่ในหัวทันที
บ้านหลังนี้เป็นทาวเฮาส์ 4 ชั้น สภาพเดิมนั้นค่อนข้างโทรม ทั้งภายนอก และภายใน เพราะมีจุดที่ชำรุดอยู่มาก ทั้งหลังคารั่ว น้ำรั่ว บันไดพัง ระบบไฟฟ้าใช้งานไม่ได้หลายจุด หญ้าขึ้นรกทั้งบริเวณพื้นที่หน้าบ้าน และหลังบ้าน แต่เมื่อตัดสินใจเลือกแล้วก็ตั้งใจที่จะทำให้บ้านนี้กลับมามีสภาพดีให้ได้ และเนื่องจากสภาพบ้านเดิมที่ทรุดโทรม ทำให้ตัดสินใจที่จะรื้อแล้วทำงานระบบใหม่ทั้งหมด ทั้งงานระบบไฟฟ้า และงานท่อประปา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดตามมาได้ หลังคาที่รั่วอยู่ก็รื้อออกแล้วมุงใหม่ ตัวผนังกั้นห้อง บันไดเดิม ก็ทุบออก เหลือไว้เพียงโครงสร้างหลักๆของบ้าน เช่น เสา คาน พื้น และผนังส่วนที่ใช้ร่วมกับบ้านอื่น
หลังจากพูดคุยกับสถาปนิก มีการออกแบบวางแผนการใช้พื้นที่ และหน้าตาของบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มต้นงานจากการไล่รื้อทุบผนังส่วนที่ทึบ และไม่ต้องการออก แล้ววางระบบต่างๆของบ้านใหม่ทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาที่คาดไม่ถึง
แนวความคิดหลักๆในการตกแต่ง ปรับปรุงบ้านหลังนี้ ก็คือ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ชอบความเรียบง่าย สะอาดตา ไม่ชอบการตกแต่งประดับประดามากนัก ชอบบ้านที่ดูเบาๆโล่งๆ ดูทันสมัย ในขณะเดียวกันก็ต้องดูอบอุ่นเหมาะกับการอยู่อาศัยด้วย สไตล์การตกแต่งที่ใช้จึงออกไปทางแนวโมเดิร์น ผสมกับแนว Loft โทนสีของพื้น ผนัง วัสดุ เป็นแบบ โมโนโทน คือเป็นสี ขาว เทา และสีดำเป็นหลัก วัสดุที่ใช้เป็นคอนกรีต อิฐ เหล็ก กระจก มีการใช้วัสดุพวกไม้ เข้ามาประกอบบ้างในสัดส่วนที่พอดีเพื่อสร้างความอบอุ่น นุ่มนวล ช่วยลดความแข็งกระด้าง และความดาร์ก ของคอนกรีต และเหล็ก สี และผิวสัมผัสของไม้ที่เข้ามาเป็นส่วนประกอบทำให้มีความรู้สึกของความเป็นบ้านที่น่าใช้ชีวิตอยู่มากขึ้น ไม่แข็งกระด้างจนอึดอัดเกินไป
ด้วยความที่เป็นคนที่ชอบ สนใจ งานด้านการออกแบบ ตกแต่งบ้านอยู่แล้วตั้งแต่เด็ก จึงมีไอเดียที่จะทำส่วนนั้น ส่วนนี้ มีภาพอยู่ในหัวว่าต้องการให้แต่ละส่วนของบ้านเป็นยังไง เพียงแต่เราไม่สามารถแปลออกมาให้ช่างก่อสร้างเห็นเป็นภาพได้ ในจุดนี้จึงต้องขอความช่วยเหลือจากสถาปนิกเพื่อแปลความต้องการของเรา ออกมาเป็นรูปธรรม ที่สามารถเอาไปใช้สื่อสารกับช่างที่จะทำงานให้เราได้
เข้าไปดูช่างทำงานทุกวัน บางวันก็ทำเองทั้งต่อไฟ ผสมปูน เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆเกิดขึ้น ทำให้รู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนี้ นอกจากนั้นแล้วก็ยังได้ความรู้ใหม่ๆด้านการก่อสร้าง การเลือกวัสดุ คุณสมบัติของวัสดุต่างๆ ค่าวัสดุ ค่าแรง และวิธีการทำงานในแต่ละส่วนติดตัวมาด้วย
ในพื้นที่บริเวณชั้นล่าง เนื่องจากความสูงของห้องมีไม่มากนัก จึงต้องรื้อแผ่นฝ้าออกเพื่อทำให้ห้องมีความสูงมากที่สุด แล้วใช้ผนังโทนสีขาว และกระเบื้องพื้นสีขาว เพื่อให้ห้องดูสว่าง กว้าง และไม่อึดอัด ส่วนบริเวณระเบียงเดิมได้ทุบปูนออกแล้วติดบานเปิด และระแนงเหล็กเพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้งาน ในขณะเดียวกันก็ยังสร้างพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวด้วย ในขณะที่รูปด้านภายนอกก็ห่อหุ้มด้วยโครง และระแนงเหล็ก เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของบ้านเดิม ให้มีความเท่มากขึ้น
บริเวณชั้น4 ชั้นบนสุด มีวิวดีสุด เพราะอยู่สูงไม่มีอะไรมาบัง ตั้งใจปรับปรุงเพื่อใช้ทำเป็นสตูดิโอ และที่ทำงาน แต่เนื่องจากเป็นชั้นที่อยู่บนสุดอยู่ติดกับหลังคาบ้าน แต่เดิมมีความร้อนมาก ในช่วงกลางวันแทบจะอยู่ในห้องไม่ได้ สถาปนิกจึงแนะนำให้ใส่ฉนวนกันความร้อน รุ่นที่มีความหนามากสุด ช่วยลดความร้อนลงไปได้อย่างมาก
ในส่วนห้องนอน เป็นพื้นที่ที่ต้องการให้ความรู้สึกแบบการพักผ่อนมากที่สุด จึงให้โทนสีของห้องนี้เป็นสีน้ำตาลอ่อน ผสมผสานกับสีธรรมชาติของไม้ ทำให้รู้สึกอบอุ่น และสบายๆ นอกจากนี้ก็ยังพยายามปลูกต้นไม้ เพื่อสร้างความสดชื่น และความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน
โดยรวมแล้วระยะเวลาที่ใช้ก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 1 ปีกว่าๆ อุปสรรคสำคัญที่ทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนของเวลาไปบ้างก็คือ เรื่องระบบ และเวลาในการทำงานของช่าง งบประมาณการซ่อมแซม ตกแต่งโดยคร่าวๆคือ ประมาณ 2 ล้านบาท สำหรับบางคนอาจจะคิดว่าค่อนข้างสูง แต่ลองนึกถึงความรู้สึกภูมิใจที่ได้ค่อยๆดูความเติบโตเปลี่ยนแปลงของบ้านตั้งแต่จุดเริ่มต้น จากที่เกือบจะเป็นศูนย์ ค่อยๆเห็นพัฒนาการของความเปลี่ยนแปลง พัฒนาการของการก่อสร้าง ค่อยๆเลือกวัสดุที่เราชอบ สีที่เป็นตัวเราลงไป เหมือนค่อยๆต่อจิ๊กซอว์ทีละชิ้น ทีละชิ้น จนมันเป็นบ้านที่สมบูรณ์ และเราก็จะมีความสุขกับของที่เราเป็นคนเลือกเอง เราได้อยู่ในบ้าน, ในสภาพแวดล้อมกับสิ่งที่มองไปแล้วเราก็รู้สึกชอบทุกวันๆ มันก็ช่วยเติมเต็ม และรู้สึกว่าคุ้มค่าสำหรับการรอคอย