4.8K
11 พฤษภาคม 2567
จำได้ไหมว่าวันสุดท้ายที่เห็นโครงหลังคาบ้านที่เราอยู่อาศัยคือเมื่อไหร่?
เราเคยมีส่วนในการตัดสินใจเลือกใช้โครงหลังบ้านหรือไม่?
เราได้ตรวจสอบคุณภาพของเหล็ก และคุณภาพของการติดตั้งโครงหลังคาหรือเปล่า?
หากไม่เคย... คุณจะมั่นใจได้อย่างไรว่าบ้านของคุณจะปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้สมาชิกในบ้านของคุณได้
ภาพ : เปรียบเทียบลักษณะของโครงเหล็กทั่วไป และโครงหลังคาสำเร็จรูป เอสซีจี
เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักให้หน้าที่การเลือกใช้โครงหลังคากับผู้รับเหมา โดยที่ไม่ทราบเลยว่าโครงหลังคาที่ผู้รับเหมาเลือกใช้นั้นมีคุณภาพเป็นอย่างไร แข็งแรงทนทานหรือไม่ มีอายุการใช้งานนานเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เจ้าของบ้านมักเลือกสินค้าที่สวยงามประเภทกระเบื้องหลังคา วัสดุตกแต่งบ้านภายนอกที่เห็นได้ชัด ที่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้บ้านของตนเองดูดี แต่ความจริงแล้วนั้นบ้านที่ดีควรเริ่มจากโครงสร้างที่แข็งแรง อย่างโครงหลังคามีหน้าที่สำคัญในการรองรับกระเบื้องหลังคาเพื่อป้องกัน ฝน แดด ลม และสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาในบ้านส่วนบน เดิมทีเมื่อหลายๆ สิบปีที่แล้ว โครงหลังคาส่วนใหญ่นั้นสร้างมาจากไม้เนื้อแข็งจากธรรมชาติ โดยการทาน้ำยากันปลวก และยึดติดด้วยตะปู จนกระทั่งโครงการ และนโยบายการอนุรักษ์ป่าไม้ได้เข้ามา พร้อมทั้งปริมาณไม้ที่มีคุณภาพที่ดีพอในการใช้งานที่น้อยลง ราคาไม้จากธรรมชาติที่สูงมากขึ้น วัสดุทางเลือก คือ เหล็กรูปพรรณ หรือเหล็กดำ (Mild steel) ได้เข้ามาทดแทน และมีบทบาทอย่างมากสำหรับโครงหลังคา เนื่องจากเป็นวัสดุที่ผลิตออกมาจากระบบอุตสาหกรรม สามารถควบคุมคุณภาพ และปริมาณ ได้คุณภาพมาตรฐานมากกว่าไม้ธรรมชาติ ทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องของปัญหาปลวก
ภาพ : โครงเหล็กรูปพรรณทั่วไป
แต่อย่างไรก็ดี โครงหลังคาเหล็กดำนั้นก็มีข้อควรระวัง และข้อจำกัดอยู่ เช่น จำเป็นที่ต้องทาสีกันสนิมเพื่อป้องกันสนิมจากการสัมผัสน้ำและอากาศ การควบคุมรอยเชื่อมให้ได้มาตรฐานตามที่วิศวกรผู้ออกแบบได้คำนวนไว้ แต่ในปัจจุบันโครงหลังคาเหล็กดำได้ถูกออกแบบ และประกอบติดตั้งโดย “วิศวกะ และความคุ้นชิน” ของวิศวกรบางคน และช่างก่อสร้างโดยมาก จึงทำให้มาตรฐานต่างๆ ทั้งความหนาเหล็ก การเชื่อม การทาสีกันสนิม การตรวจสอบรอยเชื่อม การเก็บสีตามหลักการเชื่อม ตกลงไปอย่างมากมาย พร้อมทั้งถูกละเลยจากทางเจ้าของบ้านไม่ว่าจะมาจากการขาดความรู้ ความเข้าใจในสินค้าโครงสร้าง การขาดความตระหนักในความแข็งแรงพื้นฐานที่น้อยลงไปตามวิถีสังคมที่ส่งเสริมภาพลักษณ์ภายนอกมากขึ้น เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งหากชีวิตของเรา และคนที่เรารัก จะต้องอยู่ภายใต้หมวกใบใหญ่ที่มีความเสี่ยง ไม่ได้มาตรฐานอยู่ในทุกขั้นตอน
ภาพ : โครงเหล็กดำขึ้นสนิมได้ง่าย
ภาพ : การเชื่อมเหล็กหน้างาน มีโอกาสเกิดสนิม
ปัจจุบัน เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป มีการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อช่วยให้ผู้บริโภคมีสินค้าที่ดีขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น และประหยัดทรัพยากรให้ได้มากที่สุด เอสซีจีจึงคิดค้นนวัตกรรมโครงหลังคาสำเร็จรูป เอสซีจี
(SCG Roof TRUSS) ซึ่งผลิตจากเหล็กกล้ากำลังสูง (High Tensile Steel) เกิดจากการนำเหล็กรีดเย็น (Cold Roll Coil) และขึ้นรูปเย็น (Cold Formed) และเพิ่มความสามารถในการกันสนิมโดยการเคลือบสารกัลวาไนซ์ อีกทั้งความหนาที่น้อยกว่าเหล็กดำ เพียงแต่ 0.3 - 1.5 mm. นั้นจึงทำให้การติดตั้งสามารถใช้การยึดด้วย สกรู (Screw) ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดสนิมน้อยกว่าการเชื่อม และสามารถตรวจสอบด้วยสายตาได้ นอกจากนี้น้ำหนักที่เบา (6-8 kg/m2) กว่าเหล็กดำมากเกือบ 1 เท่า สามารถเพิ่มเพิ่มความรวดเร็วในการทำงานได้
ภาพ : บ้านที่ใช้โครงหลังคาสำเร็จรูป เอสซีจี
ภาพ : ติดตั้งด้วยการยึดสกรู มีความเสี่ยงต่อการเกิดสนิมน้อยกว่าการเชื่อม
ภาพ : การติดตั้งโดยทีมช่างจากเอสซีจี
จะเห็นได้ว่าโครงหลังคาเป็นส่วนสำคัญของบ้านที่ถูกมองข้าม หากเจ้าของบ้านเลือกไม่ดีอาจจะต้องเสียเวลาแก้ไขปัญหาที่ตามมาไม่รู้จบ ทั้งปัญหาสนิม ปัญหาหลังคารั่ว และอื่นๆ อีกมากมาย การสร้างบ้านที่ดีนั้น เจ้าของบ้านไม่ควรลืมสิ่งสำคัญพื้นฐานที่เป็นดั่งกระดูกสันหลังของที่อยู่อาศัย หากพื้นฐานไม่แข็งแรง สิ่งสวยงามที่ปกคุลมอยู่ก็ไม่ใช่สิ่งสวยงามที่แท้จริง และมั่นคงตลอดไป จึงอยากจะให้เจ้าของบ้านใส่ใจ และให้ความสำคัญกับโครงสร้างหลักของบ้านด้วย โดยเฉพาะการเลือกใช้โครงหลังคาที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน แข็งแรง และมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว
ภาพ : การควบคุมงานติดตั้งอย่างละเอียดทุกขั้นตอน
หากสนใจ โครงหลังคาสำเร็จรูป เอสซีจี (SCG Roof Truss) สามารถติดต่อได้ที่ 02-586-2222 หรือสามารถเข้าขอรับคำปรึกษาได้ที่ SCG Experience หรือ SCG HOME SOLUTION ทุกสาขาทั่วประเทศ