ต่อเติมโรงจอดรถหน้าบ้าน
รอบรู้เรื่องบ้าน

ต่อเติมโรงจอดรถหน้าบ้านอย่างไร ให้ปลอดภัยและใช้งานได้จริง

11K

24 กรกฎาคม 2567

"การต่อเติมโรงจอดรถหน้าบ้านนั้น นอกจากจะทำพื้นรองรับที่แข็งแรงแล้ว ควรติดตั้งหลังคาเพื่อช่วยกันแดดกันฝน และอำนวยความสะดวกในการใช้งาน โดยมีองค์ประกอบหลักคือพื้นและหลังคา ทั้งนี้เจ้าของบ้านสามารถแต่งผิวพื้นด้วยวิธีต่างๆ รวมถึง เลือกวัสดุสำหรับมุงหลังคา หรือทำเป็นระแนงโปร่งแสงได้ตามใจชอบ"

งานต่อเติมบริเวณหน้าบ้านมักมีเรื่องของพื้นและหลังคาเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นปัจจัยหลัก แม้จะเป็นพื้นที่ Outdoor หรือ กึ่ง Outdoor อย่างโรงจอดรถหน้าบ้านนั้น หากมีหลังคาช่วยกันแดดกันฝนก็จะเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ทั้งยังช่วยเรื่องการดูแลรักษารถ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ หรือเครื่องมือต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งนี้ โรงจอดรถหน้าบ้านถือว่าอยู่ในตำแหน่งที่เป็นหน้าเป็นตา ดังนั้น ในการต่อเติมนอกจากจะคำนึงเรื่องวัสดุ วิธีติดตั้ง และการใช้งานที่เหมาะสมแล้ว ความสวยงามก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญซึ่งไม่ควรมองข้าม วันนี้ เอสซีจี ขออาสานำความรู้ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการต่อเติมโรงจอดรถหน้าบ้านว่า มีอะไรที่ต้องให้ความสำคัญ ใช้วัสดุอะไร พร้อมภาพประกอบในการต่อเติม ติดตามทั้งหมดได้ในบทความนี้

ปัจจัยที่สำคัญต่อการต่อเติมโรงจอดรถหน้าบ้าน

ก่อนจะลงมือต่อเติมโรงจอดรถ มีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง เพื่อให้โรงจอดรถมีความแข็งแรง ปลอดภัย และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

1. โครงสร้างหลังคาโรงจอดรถต้องแยกจากบ้าน

หลังคาโรงจอดรถควรมีโครงสร้างแยกออกจากตัวบ้านอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมเข้าตัวบ้าน และเพื่อให้สามารถซ่อมแซมหรือเปลี่ยนหลังคาโรงจอดรถได้โดยไม่กระทบกับโครงสร้างหลักของบ้าน นอกจากนี้ควรเลือกใช้วัสดุมุงหลังคาที่แข็งแรงทนทาน เช่น กระเบื้องลอนคู่ กระเบื้องซีแพค หรือแผ่นเมทัลชีท เพื่อให้หลังคาโรงจอดรถมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน

2. พื้นที่จอดรถต้องมีความแข็งแรง

พื้นที่จอดรถต้องรับน้ำหนักได้ดี ไม่ยุบตัวหรือแตกร้าวง่าย โดยทั่วไปนิยมเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อความแข็งแรงทนทาน แต่ควรระวังอย่าเทพื้นคอนกรีตชิดติดกับตัวบ้านหรือกำแพงรั้วมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดรอยร้าวได้ในภายหลัง พื้นโรงจอดรถควรเว้นร่องเผื่อการขยายตัวประมาณ 1-2 ซม. และควรทำความสะอาดพื้นผิวอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เศษดินทรายสะสมจนทำให้พื้นลื่น

3. ต้องคำนวณพื้นที่ให้เหมาะสมก่อนเริ่มสร้าง

การออกแบบโรงจอดรถต้องคำนึงถึงขนาดรถ และจำนวนรถที่ต้องการจอดให้ชัดเจน ควรเผื่อพื้นที่ว่างด้านข้างรถแต่ละคันไม่น้อยกว่า 70-80 ซม. เพื่อสะดวกในการเปิดประตูและเคลื่อนย้ายสัมภาระ รวมถึงต้องเว้นระยะด้านหลังเพื่อให้รถถอยเข้าออกได้สะดวก และควรเผื่อพื้นที่สำหรับทางเดินเท้าหน้าบ้านไม่น้อยกว่า 1 เมตรด้วย เพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้สะดวก โดยไม่เบียดพื้นที่สวนหย่อมหรือบริเวณอื่น ๆ ของบ้านจนเกินไป

4. เลือกซื้อวัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน

วัสดุก่อสร้างโรงจอดรถ ไม่ว่าจะเป็นปูนซีเมนต์ เหล็ก ไม้ หรือวัสดุมุงหลังคา จำเป็นต้องเลือกซื้อจากแหล่งที่เชื่อถือได้ มีการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีคุณภาพสูง แข็งแรงทนทาน ไม่ผุกร่อนหรือเสื่อมสภาพเร็วเกินไป นอกจากนี้ควรสอบถามและเปรียบเทียบราคา คุณภาพ และเงื่อนไขการรับประกันจากผู้ขายหลาย ๆ ราย เพื่อให้ได้วัสดุก่อสร้างที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับงบประมาณที่สุด

ก่อนต่อเติมโรงจอดรถควรพิจารณาอะไรเป็นอย่างแรก

การต่อเติมพื้นที่หน้าบ้านให้เป็นโรงจอดรถ อันดับแรกให้พิจารณาพื้นในตำแหน่งที่จะต่อเติม ทั้งนี้ โรงจอดรถควรมีพื้นโครงสร้างแข็งแรงเพียงพอรองรับ หากพื้นเดิมเป็นคอนกรีตอยู่แล้วอาจตกแต่งให้สวยงามขึ้น เช่น ทำคอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamped Concrete) กรวดล้าง ทรายล้าง ปูกระเบื้อง ฯลฯ แต่หากพื้นเดิมเป็นพื้นดินอยู่ เจ้าของบ้านสามารถเลือกได้ว่าจะเทพื้นคอนกรีตแบบ Slab on Ground หรือจะลงเสาเข็ม (แบบปูพรมหรือฐานเข็มกลุ่ม) เพื่อช่วยชะลอการทรุดตัว จากนั้นตกแต่งผิวเพื่อความสวยงามตามใจชอบ
เมื่อมีพื้นโรงรถหน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว สามารถตั้งเสาเหล็กบนพื้นเพื่อรองรับหลังคาได้เลย สิ่งสำคัญในการต่อเติมหลังคาโรงจอดรถหน้าบ้านคือ ให้ทำโครงสร้างอีกชุดสำหรับรองรับหลังคาโดยไม่ฝากกับตัวบ้านเดิม เพื่อที่เวลาพื้นทรุดตัวจะได้ไม่ดึงรั้งโครงสร้างเดิมจนเสียหาย (หากจำเป็นต้องยึดโครงหลังคาเข้ากับโครงสร้างบ้านเดิมควรทำจุดเชื่อมต่อให้สามารถขยับได้)

          การต่อเติมพื้นที่หน้าบ้านให้เป็นโรงจอดรถ อันดับแรกให้พิจารณาพื้นในตำแหน่งที่จะต่อเติม ทั้งนี้ โรงจอดรถควรมีพื้นโครงสร้างแข็งแรงเพียงพอรองรับ หากพื้นเดิมเป็นคอนกรีตอยู่แล้วอาจตกแต่งให้สวยงามขึ้น เช่น ทำคอนกรีตพิมพ์ลาย (Stamped Concrete) กรวดล้าง ทรายล้าง ปูกระเบื้อง ฯลฯ แต่หากพื้นเดิมเป็นพื้นดินอยู่ เจ้าของบ้านสามารถเลือกได้ว่าจะเทพื้นคอนกรีตแบบ Slab on Ground หรือจะลงเสาเข็ม (แบบปูพรมหรือฐานเข็มกลุ่ม) เพื่อช่วยชลอการทรุดตัว จากนั้นตกแต่งผิวเพื่อความสวยงามตามใจชอบ

          เมื่อมีพื้นโรงจอดรถเรียบร้อยแล้ว สามารถตั้งเสาเหล็กบนพื้นเพื่อรองรับหลังคาได้เลย สิ่งสำคัญในการต่อเติมหลังคาโรงจอดรถหน้าบ้านคือ ให้ทำโครงสร้างอีกชุดสำหรับรองรับหลังคาโดยไม่ฝากกับตัวบ้านเดิม เพื่อที่เวลาพื้นทรุดตัวจะได้ไม่ดึงรั้งโครงสร้างเดิมจนเสียหาย (หากจำเป็นต้องยึดโครงหลังคาเข้ากับโครงสร้างบ้านเดิมควรทำจุดเชื่อมต่อให้สามารถขยับได้)

ภาพ: ควรทำโครงสร้างเสาแยกกันกับตัวบ้านสำหรับรองรับหลังคาโดยเฉพาะ (ดังภาพบน) มิฉะนั้นโครงสร้างอาจดึงรั้งกันจนเสียหายเมื่อพื้นคอนกรีตที่เทใหม่เกิดการทรุดตัว (ดังภาพล่าง)

ภาพ: กรณีจำเป็นต้องฝากโครงหลังคาใหม่ไว้กับโครงสร้างบ้านเดิม ให้ทำจุดเชื่อมต่อขยับได้เผื่อรองรับการทรุดตัว

วัสดุที่จำเป็นในการต่อเติมโรงจอดรถ

          สำหรับวัสดุมุงหลังคาที่ใช้ หากมีน้ำหนักเบาจะมีข้อดีคือช่วยลดภาระให้กับโครงสร้างส่วนต่อเติม กรณีวัสดุมุงหลังคาเป็นแบบทึบแสง จะช่วยกันได้ทั้งแดดและฝน เช่น หลังคาเหล็กรีดลอน (Metal Sheet) หลังคาไวนิล (PVC หรือ Poly Vinyl Chloride) หลังคา UPVC (Unplastizide Poly Vinyl Chloride) ในทางกลับกัน หากต้องการแสงธรรมชาติอาจเลือกใช้วัสดุมุงหลังคาแบบโปร่งแสง เช่น โพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) อะคริลิก (Acrylic) ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass)

          ทั้งนี้ เจ้าของบ้าน อาจเลือกรูปแบบการต่อเติมหลังคาโรงรถหน้าบ้าน ในลักษณะของระแนงไม้ ซึ่งดูสวยงามในรูปแบบที่ต่างกับหลังคาทั่วไป ทั้งยังช่วยกรองแสงและยังให้ลูกเล่นแสงเงา ในทิศทางต่างๆ ตามช่วงเวลาด้วย โดยปิดทับด้วยวัสดุใสเพื่อกันฝน อย่างแผ่นโปร่งแสงลอนกันสาด อะคริลิกแผ่นเรียบ หรือพลาสติกลูกฟูก เป็นต้น

ภาพ: ตัวอย่างการต่อเติมโรงจอดรถหน้าบ้าน โดยทำหลังคาเป็นระแนง ปิดทับด้วยวัสดุโปร่งแสง

สรุปเกี่ยวกับการต่อเติมโรงจอดรถ

การต่อเติมส่วนต่างๆ ของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่โรงจอดรถพร้อมหลังคา หรือส่วนใดๆ ก็ตาม ความปลอดภัยนับเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ เจ้าของบ้านจึงควรปรึกษาวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อออกแบบคำนวณโครงสร้างและการรับน้ำหนักให้ถูกต้องเหมาะสม สำหรับใครที่มีโครงการอยากต่อเติมโรงรถหน้าบ้าน เอสซีจี พร้อมให้บริการด้วยสินค้าวัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น

สามารถเยี่ยมชมสินค้าจริง และขอรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญฟรี! ได้ที่ SCG Experience และ SCG HOME Solution สาขาใกล้บ้าน หรือโทร.02-586-2222

แท็กที่เกี่ยวข้อง