1.5K
26 กุมภาพันธ์ 2568
บางแสน เมืองชายหาดที่คุ้นเคยของคนไทย กำลังก้าวสู่การเป็นเมืองตากอากาศระดับโลกด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและการพัฒนาอย่างรอบด้าน นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุขได้เปิดเผยถึงแผนการพัฒนาที่จะเปลี่ยนโฉมบางแสนให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ
"บางแสนกำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ" นายกเทศมนตรีกล่าว "การพัฒนาครั้งนี้มุ่งเน้นการปรับภูมิทัศน์โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก มีการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงความยั่งยืนในระยะยาว” โดยเน้นการพัฒนาพื้นที่สำคัญสองแห่ง ได้แก่ หาดวอนนภาและแหลมแท่น เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
หาดวอนนภา
หาดวอนนภาได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่มีความยั่งยืน โดยรับฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก สำรวจความต้องการของผู้ใช้งาน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเสนอความคิด จึงได้แนวคิดการออกแบบการ ให้เหมาะกับ ไลฟ์สไตล์ และการใช้งานของประชาชนและนักท่องเที่ยว ออกแบบพื้นที่ให้เหมาะกับการพักผ่อนหย่อนใจ ปิคนิคแบบอบอุ่นทั้งครอบครัวสไตล์ไทยๆ หรือนั่งสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน สะดวกสบายทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน มีจุดสำหรับชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม ในขณะที่กลุ่มของคนที่มาออกกำลังกาย ก็มีพื้นที่ทำหรับเดิน หรือวิ่งได้อย่างสะดวกสบาย พื้นที่ออกแบบให้มีความต่อเนื่องสามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น ที่สำคัญการออกแบบโดยใช้หลัก Universal design ให้คนทุกกลุ่มได้เข้ามาใช้งานได้อย่างสะดวก
สำหรับวัสดุที่เลือกใช้ “ใช้วัสดุที่พื้นผิวไม่ลื่น” เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานจึงเลือกใช้ บล็อกปูพื้นรุ่น ลากูน่า มัลดีฟ ที่มีผิวหน้าเป็นหินเกล็ดเม็ดเล็กให้สัมผัสหยาบ เล็กน้อย และเพิ่ม ดีไซน์ให้กับพื้นที่ด้วย บล็อกปูพื้นรูปทรงสี่เหลี่ยม ปูแบบสลับสีเทา-ดำ ทำให้พื้นที่ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น ใช้โทนสีเทาและสีดำ ในการออกแบบจึงทำให้พื้นที่มีความเรียบง่ายแต่มีดีไซน์ เติมความสดชื่นให้กับพื้นที่ด้วยหญ้าเทียมสีเขียว ให้ความสดชื่นกับพื้นที่ เรียกได้ว่าหาดวอนนภา ภายหลังการปรับปรุงแล้วสามารถตอบรับ การใช้ชีวิตของประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ด้วยการจัดการพื้นที่ได้อย่างลงตัว
แหลมแท่น
อีกหนึ่งพื้นที่ที่ถือว่าเป็นแลนด์มาร์คสำคัญแห่งหนึ่งของบางแสนได้แก่ “แหลมแท่น” พื้นที่แห่งนี้นอกจากมีความงดงามในเรื่องของทิวทัศน์แล้ว แหลมแท่นยังเป็นพื้นที่ๆมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ระดับนานาชาติ เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นจุดกำเนิดของสมาคมอาเซียน มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง
แผนการพัฒนาแหลมแท่นมุ่งเน้นการสร้าง "ลานอาเซียน" ที่ผสมผสานงานออกแบบภูมิสถาปัตย์ที่สวยงาม เข้ากับประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และต้องการยกระดับพื้นที่ให้มีบรรยากาศและกลิ่นไอของชายหาดยอดนิยมในต่างประเทศ ด้วยเหตุนี้เทศบาลเมืองแสนสุขจึงได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์ แหลมแท่นให้มีความสวยงาม ด้วยแนวคิดเมือง Smart City ออกแบบพื้นที่ให้มีความสวยงาม ดูทันสมัย จุดเด่นของการออกแบบงานภูมิทัศน์ คือการการออกแบบโดยการใช้ลายเส้นในการนำสายตา ที่มุ่งนำเข้าสู่กลุ่มของเสาธงอาเซียนที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณส่วนกลางของพื้นที่ อีกทั้งยังออกแบบFunction รใช้งานให้มาพร้อมกับประโยชน์ใช้สอย ที่ตอบโจทย์การใช้ ของคนในพื้นที่ เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ เรียบง่ายใช้โทนสีที่สะอาดตา เพื่อรองรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เป็นจุด แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ใครๆก็ต้องมาเยือน
การเลือกใช้วัสดุที่ยั่งยืน
การพัฒนาภูมิทัศน์ของเทศบาลเมืองแสนสุข ให้ความสำคัญในทุกด้าน โดยเฉพาะถึงการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือ Green material อาธิเช่น กระเบื้องปูพื้นรุ่น เวนโทลา ที่มีส่วนผสมของวัสดุเหลือใช้ อย่างน้อย 40% และยังได้การรับรองมาตรฐาน คาร์บอนฟุตพริ้น ของผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจหมุนเวียน ประเภทวัสดุก่อสร้าง และยังได้รับการติดฉลาก SCG Green Choice ในหมวดของ Circular ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ ใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิต อย่างน้อย 40% เช่นเดียวกับบล็อกปูพื้น SCG ที่มีใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตอย่างน้อย 15% นอกจากเรื่องของวัสดุแล้วยังเลือกใช้วัสดุที่มีลักษณะของการติดตั้งแบบ Modular ด้วยคำนึงถึงการใช้ในระยะยาวที่วัสดุสามารถรื้อถอนวัสดุและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เมื่อต้องมีการปรับปรุงหรือซ่อมแซม ช่วยให้การบำรุงรักษาและซ่อมแซมทำได้ง่ายขึ้น รองรับการใช้งานที่หนักหน่วงจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก หลักของแนวคิดนี้ได้ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับทุกโครงการของเทศบาลเมืองแสนสุข เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน
SCG พันธมิตรในการพัฒนา
SCG ได้เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะเพื่อนคู่คิดที่คอยสนับสนุนงานพัฒนาพื้นที่ภูมิทัศน์ในด้านต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาภูมิทัศน์ที่สมบูรณ์แบบและเกิดความยั่งยืน เช่นการคำปรึกษาในด้านการออกแบบภูมิทัศน์การจัดการพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดรวมถึงการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการกำหนดมาตรฐานการติดตั้งให้ได้มาตรฐานเทียบเท่ามาตรฐานสากล พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม เพื่อให้ตรงความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการเห็นการพัฒนาภูมิทัศน์ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นได้สูงสุด และเพื่อให้บางแสนมีภูมิทัศน์ที่สวยงามและยั่งยืน
การพัฒนาครั้งนี้ส่งผลให้บางแสนกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมมากขึ้น โดยจำนวนนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นจากประมาณหนึ่งล้านคนต่อปีเป็นมากกว่า 3 ล้านคนต่อปีในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น สร้างรายได้ให้กับชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของชาวบางแสน
การพัฒนาบางแสนครั้งนี้นับเป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาเมืองท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิตของชุมชน บางแสนวันนี้พร้อมแล้วที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่ทันสมัยแต่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ดั้งเดิม เชิญชวนทุกท่านมาสัมผัสประสบการณ์ "มาเดินได้เดินดีที่บางแสน" เมืองแสนสุขแห่งนี้