ติดโซลาร์เซลล์ช่วยลดค่าไฟ ติดตั้งยังไงให้คุ้มค่าที่สุด
เคล็ดลับน่ารู้

อยากประหยัดต้องรู้ ติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ยังไงให้คุ้มค่าที่สุด

132.6K

21 สิงหาคม 2567

ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า เมื่อบ้านติดแผงโซลาร์เซลล์

เชื่อว่าหลายคนเริ่มหันมาสนใจการติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ส่วนหนึ่งเพราะมีการให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาด อยากช่วยรักษ์โลกมากยิ่งขึ้น แต่อีกส่วนหนึ่งนั้นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของความคุ้มค่าที่ได้จากการติดโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ต้องการลดค่าไฟในแต่ละเดือน หรือแม้แต่การขายไฟฟ้าคืนให้การไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ปัจจุบันการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell) คุ้มค่ามากขึ้น คืนทุนเร็วยิ่งขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราถึงควรหันมาให้ความสำคัญและติดโซลาร์เซลล์บ้านพักอาศัย / ออฟฟิศ / โรงงาน / ร้านอาหาร หรืออื่นๆ อีกมากมาย

แต่ก่อนจะไปถึงเรื่องคุณประโยชน์ และการคืนทุนของโซล่าเซลล์ (Solar Cell) เอสซีจี ขออธิบายเกี่ยวกับวิธีการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยแสงอาทิตย์ที่ว่านี้คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร และมีกี่ประเภท ติดตามสาระสำคัญทั้งหมดได้ในบทความนี้

การติดแผงโซลาร์เซลล์ช่วยให้คุ้มค่า ประหยัดค่าไฟในบ้าน

ระบบโซล่าเซลล์คืออะไร

ระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) คือ การนำเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์มาใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้แผงโซล่าเซลล์ซึ่งประกอบด้วยเซลล์สุริยะจำนวนมากมาเปลี่ยนพลังงานแสงให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ถือเป็นพลังงานสะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งยังใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างไม่จำกัดอย่างแสงอาทิตย์ในการผลิตพลังงาน จึงเป็นพลังงานหมุนเวียนที่ไม่มีวันหมดไป ทำให้ระบบโซล่าเซลล์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน

ระบบโซล่าเซลล์ทำงานอย่างไร

ระบบโซล่าเซลล์จะประกอบด้วยแผงเซลล์แสงอาทิตย์ที่ทำจากสารกึ่งตัวนำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นซิลิคอน เมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบแผงเซลล์ จะทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนและก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าขึ้น โดยกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จะเป็นไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ซึ่งจะถูกส่งไปเข้าอินเวอร์เตอร์เพื่อเปลี่ยนเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่มีแรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ และความถี่ 50 เฮิรตซ์ พร้อมใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรืออาคารได้ทันที โดยปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้จะขึ้นอยู่กับขนาดและจำนวนของแผงโซล่าเซลล์ รวมถึงความเข้มของแสงแดดที่ได้รับในแต่ละวันด้วย

ระบบโซล่าเซลล์มีกี่ประเภท

ระบบโซล่าเซลล์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้

ระบบโซล่าเซลล์แบบ On-Grid

ระบบโซล่าเซลล์แบบ On-Grid เป็นระบบที่เชื่อมต่อกับระบบสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าโดยตรง โดยจะมีเครื่องอินเวอร์เตอร์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับตามแรงดันไฟฟ้าสาธารณะ 220v เพื่อจ่ายไฟให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านหรืออาคารในช่วงกลางวันที่มีแสงแดด โดยไฟฟ้าส่วนที่เหลือจะถูกส่งเข้าระบบสายส่งไฟฟ้าสายส่งไฟฟ้าเพื่อไปใช้ในสถานที่อื่นต่อไปได้ แต่ในเวลากลางคืนที่ไม่มีแสงแดด จะใช้ไฟฟ้าจากระบบสายส่งปกติ ทำให้ไม่ต้องมีแบตเตอรี่สำรองไว้ใช้งาน

ระบบโซล่าเซลล์แบบ Off-Grid

ระบบโซล่าเซลล์แบบ Off-Grid เป็นระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่มุ่งเน้นกักเก็บพลังงานใช้เองทั้งหมด โดยไม่ได้เชื่อมต่อเข้ากับระบบสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้า แต่จะมีแบตเตอรี่สำรองเก็บพลังงานไว้ใช้งานตอนกลางคืนแทน เหมาะกับท้องถิ่นทุรกันดารที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง อย่างไรก็ตามระบบ Off-Grid ต้องมีการจัดการระบบที่มีประสิทธิภาพเพื่อสมดุลระหว่างพลังงานที่ผลิตได้และพลังงานที่ต้องใช้ในแต่ละวัน

        ด้วยเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง  จึงทำให้ปัจจุบันการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell)  คุ้มค่ามากขึ้น  คืนทุนเร็วยิ่งขึ้น  นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า  ทำไมเราถึงควรหันมาให้ความสำคัญและติดโซลาร์เซลล์บ้านพักอาศัย / ออฟฟิศ / โรงงาน / ร้านอาหาร หรืออื่นๆ อีกมากมาย    

หลังคาบ้านโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ลดค่าไฟได้จริงไหม?


        ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) สามารถช่วยลดค่าไฟได้จริง!!  แต่จะคุ้มทุน-คืนทุนเร็วหรือช้า ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบโซลาร์ (Solar) และพฤติกรรมการใช้ไฟของเจ้าของบ้านแต่ละหลัง เปรียบเทียบง่ายๆ หากเราลงทุนกับการติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell)  ในมูลค่าที่เท่ากัน บ้านที่มีการติดตั้งระบบโซลาร์ขนาดใหญ่และใช้ไฟฟ้ามากย่อมคืนทุนเร็วกว่าบ้านที่มีการใช้ไฟฟ้าน้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเป็นบ้านที่ใช้ไฟกลางวันเป็นหลัก ผลิตไฟฟ้าได้แล้วใช้เลยจึงจะคุ้มค่ามากที่สุด (ระบบ On grid) เพราะในปัจจุบันระบบ Energy Storage สำหรับใช้ในบ้านยังมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้จุดคุ้มทุนยิ่งนานขึ้นตามกันไป​​​​​​​

การทำงานของโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ระบบ On grid

ภาพ : การทำงานของโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) ระบบ On grid

สิ่งปลูกสร้างแบบไหนที่เหมาะกับการติดโซล่าเซลล์

ไม่ว่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างอย่าง บ้าน ออฟฟิศ สำนักงาน ร้านอาหาร และอาคารที่ใช้ไฟกลางวัน ล้วนเหมาะแก่การติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ทั้งซึ่ง ซึ่งสิ่งปลูกสร้างแต่ละประเภทก็จะใช้ระบบที่มีขนาดแตกต่างกันไป ตามการใช้งานไฟฟ้า เช่น โซลาร์เซลล์บ้านพักอาศัย ที่มีพ่อแม่อยู่บ้าน-กลุ่มวัยเกษียณอายุที่อยู่บ้านในช่วงกลางวัน กลุ่มคนที่ทำงานที่บ้าน (Work from home) สำนักงาน/โฮมออฟฟิศ หรือแม้แต่ร้านอาหารที่ใช้ไฟกลางวันก็เหมาะสมเป็นอย่างมาก เพราะอย่างที่บอกไปข้างต้นว่า “หลังคาบ้านโซล่าเซลล์ (Solar Cell)” ระบบ On grid คือ การผลิตไฟฟ้าช่วงกลางวันได้แล้วใช้เลย และควรมีค่าไฟขั้นต่ำ 3,000 บาท
หลังคาบ้านทาวน์เฮาส์ที่ติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ช่วยลดค่าไฟ

ภาพ : หลังคาบ้านทาวน์เฮาส์ที่ติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ช่วยลดค่าไฟ

ออฟฟิศ / สำนักงานที่ติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell)  ช่วยลดค่าไฟ

ภาพ : ออฟฟิศ / สำนักงานที่ติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell)  ช่วยลดค่าไฟ

ติดโซล่าเซลล์ยังไงไม่ให้มีปัญหาตามมา


        หลายท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการ ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ไม่ใช่ว่าจะติดตั้งแบบไหนก็ได้  เพราะแผงโซลาร์ (Solar Panel) / อุปกรณ์แปลงกระแสไฟ หรือ Inverter แต่ละยี่ห้อมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน  รวมไปถึงหากใช้วิธีการติดตั้งที่ไม่ดีจะเสี่ยงรั่ว  และต้องดำเนินการขออนุญาตจากภาครัฐก่อนถึง 3 หน่วยงาน

1.แผงโซลาร์

แผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panel) ที่ใช้กับงานหลังคาส่วนใหญ่เป็นแผงเทคโนโลยี Crystalline ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ         
        1) Monocrystalline  เป็นเซลล์แบบผนึกเดียว  ที่ผลิตจากซิลิคอนบริสุทธิ์ (เกรดดีที่สุด)  ทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุด      
        2) Polycrystalline เป็นเซลล์แบบผนึกรวม ที่ผลิตจากซิลิคอนทั่วไป  ประสิทธิภาพต่ำกว่าแบบผนึกเดียว  ซึ่ง SCG Solar Roof เลือกใช้แบบ  Monocrystalline 

แผงโซลาร์เซลล์

2. อุปกรณ์แปลงกระแสไฟ หรือ Inverter


        Inverter ถือเป็นหัวใจของระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell)   ถ้าใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน  การทำงานไม่เสถียร  จะส่งผลต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น ทำให้ไฟกระชาก  ส่งผลให้เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเสียหาย นอกจากนี้ยังต้องเป็น Inverter ที่ได้รับการรับรองจาก MEA และ PEA อีกด้วย   
        สำหรับ Inverter ที่ SCG เลือกใช้เป็นของยี่ห้อ ABB เทคโนโลยีสวิสเซอร์แลนด์ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานจาก MEA, PEA และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล 

อุปกรณ์แปลงกระแสไฟ หรือ Inverter

3. วิธีการติดตั้งระบบโซลาร์ (Solar)


        โดยส่วนใหญ่แล้วบริการติดตั้งโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ของแบรนด์ทั่วๆ ไป มักจะเจาะกระเบื้องหลังคาเพื่อยึดแผงโซลาร์ (Solar) เข้ากับผืนหลังคาของบ้านหลังนั้นๆ  แต่รู้หรือไม่ว่าวิธีการดังกล่าว  ส่งผลเสียทำให้หลังคาเสี่ยงรั่วเป็นอย่างมาก  แทนที่จะผลิตไฟฟ้าเพื่อลดค่าไฟได้อย่างสบายใจ  กลับกลายเป็นปัญหาหลังคารั่วให้เจ้าของบ้านปวดหัวมากกว่าเดิม 
        การติดตั้งระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ที่ดีที่สุดคือ  ต้องไม่เจาะกระเบื้องหลังคา  ซึ่งวิธีการที่ SCG เลือกใช้จะเป็นการใช้กระเบื้อง Solar FIX (จดสิทธิบัตรเฉพาะ SCG เท่านั้น)  ดำเนินการโดยถอดกระเบื้องแผ่นเดิมออกแล้วแทนที่ด้วย Solar FIX ทำให้สามารถติดตั้งโซลาร์ (Solar) บนหลังคาได้อย่างไม่เสี่ยงรั่ว 

Solar FIX  สิทธิบัตรเฉพาะ SCG

ภาพ : Solar FIX  สิทธิบัตรเฉพาะ SCG

การติดตั้ง Solar FIX  บนหลังคา

ภาพ : การติดตั้ง Solar FIX  บนหลังคา

        นอกจากเรื่องวิธีการติดตั้งระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Cell) ที่ไม่ก่อให้เกิดการเสี่ยงรั่วแล้ว  ก่อนหน้าที่จะดำเนินการติดตั้งแผงโซลาร์ (Solar) ทาง SCG  ยังมีบริการ Roof Health Check เป็นการตรวจสภาพหลังคาเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนติดตั้งโซลาร์ (Solar)  เช่น ความแข็งแรงของโครงสร้างหลังคา, ปัญหารั่วเดิมที่มีอยู่ก่อนหน้า  ซึ่งหากพบปัญหาจะแนะนำ รวมถึงมีบริการในการซ่อม-ปรับปรุงหลังคาให้อยู่ในสภาพดีก่อนที่จะติดตั้งโซลาร์ (Solar) อีกด้วย ทั้งนี้เพื่อให้หลังคาอยู่คู่กับระบบโซลาร์ (Solar) ได้ตลอดอายุการใช้งาน

การตรวจสภาพปัญหาหลังคาก่อนติดตั้งโซลาร์ (Solar) ด้วยโดรน

ภาพ : การตรวจสภาพปัญหาหลังคาก่อนติดตั้งโซลาร์ (Solar) ด้วยโดรน

4. การขออนุญาตจากภาครัฐ


        ก่อนการติดตั้งหลังคาโซลาร์  (Solar)  เจ้าของบ้านต้องดำเนินการการขออนุญาตจากภาครัฐถึง 3 หน่วยงาน คือ1) เขต หรือ เทศบาล  2) MEA หรือ PEA  3) คณะกรรมการกองกำกับกิจการพลังงาน ซึ่งความยุ่งยากในกระบวนการเหล่านี้ ทาง SCG บริการให้ทั้งหมด 

การขออนุญาตจากภาครัฐ

5. การรับประกันและบริการหลังการขาย


        ในส่วนของการรับประกัน และบริการหลังการขาย  หลายๆ แบรนด์มักจะเอามาเป็นจุดขายว่ารับประกันกว่า 20 ปี  แต่เราจะเชื่อใจได้หรือไม่ว่า  ภายใน 20 ปีนั้นบริษัทฯ   ดังกล่าวจะยังให้บริการเราดีดังเดิมต่อไป        

        ในส่วนของ SCG Solar Roof Solutions เจ้าของบ้านหมดกังวลและปัญหากวนใจของบริการหลังการขายได้เลย  เพราะเป็นบริษัทฯ ที่มีความน่าเชื่อถือจะจะอยู่คู่บ้านของคุณไปอีกยาวนาน   หากเกิดปัญหาอะไรเจ้าของบ้านก็สามารถติดต่อได้อยู่เสมอ        

สำหรับการรับประกัน  SCG Solar Roof Solutions มีการรับประกัน ดังนี้        
        1. รับประกันแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Cell) และประสิทธิภาพการผลิตไฟ (Product & Performance) 25 ปี        
        2. รับประกัน Inverter 10 ปี        
        3. รับประกันการติดตั้ง  3 ปี         
        4. มีบริการตรวจสอบระบบ และล้างแผง  3 ปี  ปีละ 1 ครั้ง  

การรับประกันและบริการหลังการขาย

สรุปเกี่ยวกับการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ (Solar Cell)

        สำหรับเจ้าของบ้านท่านใดที่กำลังสนใจบริการติดตั้งระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Cell)ต้องศึกษาข้อมูลของแต่ละแบรนด์ให้ดีและครอบคลุมในทุกๆ ปัจจัย  เพราะโซลาร์ (Solar) จะติดอยู่ที่บ้านเราไปอีกหลายสิบปี  หากเลือกไม่ดีก็อาจจะมีปัญหาตามมาให้ปวดหัวได้ไม่น้อย

        หากสนใจบริการติดตั้งระบบหลังคาโซล่าเซลล์ (Solar Cell)  กับ SCG  สามารถติดต่อได้ที่ SCG HOME Experience , SCG HOME บุญถาวร  และร้านผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือสามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ SCG HOME Contact Center 02-586-2222 หรือเปิดสำรวจหน้างานผ่านออนไลน์ได้ที่ SCGHOME.COM